Expected Value (EV) หมายถึง เป็นค่าเฉลี่ยของกำไรที่จะได้หากเล่นเกมในระยะยาว นั้นหมายความว่าถ้าพูดว่า +EV คือคุณจะได้กำไรเสมอหากเล่นในระยะยาว –EV คือคุณจะเสียเสมอหากเล่นในระยะยาว
ยกตัวอย่างนอกเกมโป๊กเกอร์ เพื่อให้คุณเข้าใจมามกขึ้น
หากคุณเดินเข้าไปในสนามบอลที่ Ronaldo กำลังซ้อมเตะลูกโทษอยู่ และคุณได้ทำการพนันกับ Ronaldo ว่าถ้า Ronaldo เตะลูกโทษไม่เข้า เขาต้องเสียให้คุณ $5 แต่ถ้า Ronaldo เตะลูกโทษเข้า คุณต้องเสียให้เขา $5 เป็นคุณจะรับข้อเสนอนี้หรือไม่
สัญชาติญาณแรกของคุณคงบอกว่าไม่ เพราะนี้คือนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ถูกต้องครับ คุณคิดถูก เพราะการที่คุณเข้าไปเสี่ยงพนันกับเขานั้นเป็น –EV อย่างแน่นอน ลองไปดูภาพด้านล่าง
อย่างที่เห็นจากในรูปมีความน่าจะเป็น 2 ทางที่จะเกิดขึ้นได้
1. Ronaldo ยิงลูกโทษเข้า และคุณเสีย $5 ซึ่งจะเกิด 80% ของจำนวนครั้งทั้งหมด
2. Ronaldo ยิงลูกโทษไม่เข้า และคุณได้เงิน $5 ซึ่งจะเกิดขึ้นแค่ 20% ของจำนวนครั้งทั้งหมด
วิธีคำนวณ Expected Value (EV)
วิธีการคำนวณ EV ของการ Bet นั้นสามารถคิดได้ง่ายๆโดยการนำเอา ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์มาคูณกับผลลัพธ์ และนำผลลัพธ์ของทุกเหตุการณ์มาบวกกัน ดังตัวอย่างนี้
ยิงลูกโทษเข้า : 0.8 x -$5 = -$4
ยิงลูกโทษไม่เข้า : 0.2 x $5 = $1
รวมผลลัพธ์ทั้งหมด : -$4 + $1 = -$3
EV = -$3
เพราะฉะนั้นแล้วสัญชาติญาณของคุณถูกต้องถ้าทำการเล่นทั้งหมด 100 ครั้งนั้นหมายความว่าทุกครั้งที่คุณเล่นคุณจะเสียเงิน $3 ต่อครั้ง
แต่ถ้า Ronaldo ให้ข้อเสนอใหม่กับคุณ ถ้าเขายิงไม่เข้าเขาจะต้องให้คุณ $100 แต่ถ้าเขายิงเข้าคุณต้องให้เขาในราคาเท่าเดิมคือ $5 ถ้าเป็นข้อเสนอแบบนี้คุณยังจะเล่นหรือไม่
ลองมาคำนวณกัน
ยิงลูกโทษเข้า : 0.8 x -$5 = -$4
ยิงลูกโทษไม่เข้า : 0.2 x $100 = $20
รวมผลลัพธ์ทั้งหมด : -$4 + $20 = $16
EV = $16
จะเห็นได้ว่าเป็น +EV แล้วและคุณควรที่จะรับข้อเสนอนี้เพราะการที่คุณเล่นแต่ละครั้งหมายความว่าคุณจะได้เงิน $16 จาก Ronaldo
Expected Value ในโป๊กเกอร์
ยกตัวอย่างง่ายๆ มีกี่ครั้งที่คุณเกิด Bad Beat จากการมีคู่ A บนมือและคุณได้ทำการ all in Pre Flop คุณเคยคิดที่จะหมอบ hand นี้หรือไม่
แน่นอนว่าคุณไม่หมอบ เพราะคุณรู้ว่าการที่คุณมีคู่ A นั้นทำให้โอกาสที่คุณจะชนะนั้นเยอะมากหากเล่นในระยะยาว
เพราะฉะนั้นแล้วการเป็นนักโป๊กเกอร์ที่เก่งหมายความว่าคุณต้องสามารถสร้างกำไร +EV ได้อย่างสม่ำเสมอ หมายความว่าคุณต้องเลือกลงทุนในจังหวะที่มีโอกาสชนะมากกว่าอย่างสม่ำเสมอแม้จะเจอความแปรปรวน (Variance) บ้างแต่ในระยะยาวคุณก็จะสามารถทำกำไรได้แน่นอน
ยกตัวอย่าง EV : คุณควรที่จะ All in หรือไม่หากคุณมีคู่อยู่บนมือ
สมมติว่าคุณเล่นที่โต๊ะ $2/$4 โดยอยู่ในตำแหน่ง Button มี Buy In $200 คู่แข่งของคุณแบบ Loose ทำการ Bet ที่ $16 ในตำแหน่งต้น และคุณ Call ตามไปด้วยไพ่ J♦ 9♦ และ Blinds 2 คนหมอบไป ตอนนี้ Pot อยู่ที่ $38
Flop เปิดออกมาเป็น 5♦ 10♦ 2♣ คู่แข่งของคุณ Bet ไปที่ $30 และคุณตัดสินใจที่จะ Call ตามไปทำให้ตอนนี้ Pot ทั้งหมด $98
Turn ออกมาเป็น 7♠. คู่แข่งของคุณที่การ Bet ที่ $50 ทำให้ Pot อยู่ที่ $148
การ Call ก็ดูเป็นการตัดสินใจที่ดี แต่หากมองว่าถ้าคุณ All In จะเป็นอย่างไร
สมมติว่าคุณคุ้นเคยกับคู่แข่งคนนี้ และรู้ว่าเขานั้นกดดันผู้เล่นคนอื่นเก่ง คุณยังรู้อีกว่าถ้าคุณ All in ใส่เขามีโอกาสที่จะหมอบประมาณ 66 % แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งถ้าเขา Call ตามมา คุณต้องติด Combo เพื่อที่จะชนะ
ลองมาคำนวณ Action ของคุณว่าคุณควรจะทำอย่างไรในสถานการณ์นี้ คุณคาดการณ์ว่าคู่แข่งนั้นถือไพ่ T9 Suited เป็นคู่สูงสุดจาก Flop และการเปิดไพ่ที่ River คุณมีโอกาสชนะอยู่ที่ 34.09%
ผลลัพธ์จะออกมาได้ 3 ทาง
1. คู่แข่งของคุณหมอบ คุณชนะ $148
2. คู่แข่งของคุณ Call และคุณแพ้ Showdown เสียเงิน -$154
3. คู่แข่งของคุณ Call และคุณชนะ Showdown เสียเงิน $252
คำนวณ EV ดังนี้
คู่แข่งหมอบ : $148 x 0.66 = $97.68
คู่แข่ง Call คุณแพ้ : 0.6591 x -$154 = -$101.5014
คู่แข่ง Call คุณชนะ : 0.3409 x $252 = $85.9068
EV รวมเมื่อ Call: -$101.5014 + $85.9068 = -$16.5014
เมื่อสร้างเป็นรูปใหม่ได้ดังนี้
นำมาคำนวณต่อ
คู่แข่งหมอบ : $148 x 0.66 = $97.68
คู่แข่ง Call: -$16.50 x 0.33 = -$5.45
EV รวมทั้งหมดของการ All in = -$5.45 + $97.68 = $92.23
จะเห็นได้ว่า EV เป็น $92.23 แล้วคุณจะรออะไร All in เลยครับเพื่อผลกำไรสูงสุด
มูลค่าของ Hand
จากเหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่าคุณมีมูลค่าของ Hand ที่สูงกว่ามาก มี Out ที่เยอะกว่ามาก เช่น หาก 8 ออกมาที่ River คุณจะได้ Straight , หากดอกข้าวหลามตัดออกมาคุณจะได้ Flush หรือแม้แต่ J ออกมาคุณก็ยังจะชนะคู่แข่งที่มีคู่ 10 อยู่
เพราะฉะนั้นสามารถคำนวณ Out ได้ว่า 9 (ข้าวหลามตัดที่เหลือ) + 3 (ไพ่ 8 ที่ไม่ใช่ข้าวหลามตัด) + 3 (J) = 15 out ที่สามารถทำให้คุณชนะได้ ทำให้มูลค่าของไพ่คุณสูงมากที่จะชนะ และหากมองอีกมุมหนึ่งที่คู่แข่งของคุณจะหมอบก็ยิ่งส่งผลให้คุณควรที่จะ all in อีกด้วย
วิธีการเล่นของคู่แข่ง
มันเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันที่จะมองวิธีการเล่นของคู่แข่งให้ออกว่าเขาไม่ได้มีไพ่ที่ดีมากนัก แต่เขาเก่งที่จะเล่นแบบ Aggressive เพื่อกดดันคนอื่น และคุณแน่ใจว่าเขาจะหมอบหากเจอ All in
ถ้าคุณวิเคราะห์ได้ระดับนี้ การ All In ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่จะลองทำ แต่ถ้ากลับกัน หากคู่แข่งของคุณเป็นผู้เล่นแบบ Tight การคิดแบบนี้จะผิดทันที คุณต้องกลับไปคำนวณ EV ใหม่ทั้งหมด
สรุป
ถ้าหากจะให้สรุปบทความนี้คงเป็นข้อสรุปได้ว่า Expected Value (EV) เป็นแค่ โอกาสของความน่าจะเป็นไม่ใช่คำตอบที่แน่นอน
เพราะในเกมโป๊กเกอร์ถึงแม้จะต้องใช้สกิลการและความรู้อย่างสูงแต่ ดวง ก็คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้วการใช้ EV เพื่อให้เกิดกำไรนั้นตามหลักสถิติแล้วต้องเป็นการเล่นระยะยาว หากคุณเจอความแปรปรวน คุณก็ควรที่จะใช้ความรู้อย่างอื่นเข้ามาช่วย เช่น Bank Roll Management เพื่อให้คุณสามารถอยู่ได้ในระยะยาวและชนะต่อไป เเละสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ หากมีข้อสงสัยหรืออยากพูดคุยกับเราสามารถติดเราได้ทีนี่